Login Register
Karabako - Image Community
 Shoutbox v.2 (Beta)
Uploader : BoarHide
Posted on 2011-10-19 10:14:45 (34 days ago)
700 x 785 px - 312kb - Rate: Unrated

Source : http://karenswhimsy.com/public-domain-images/greek-warriors/images/greek-warriors-1.jpg
0
677 View
0 Favorite :
Comments : 12
34 days ago
ถ้าท่านไม่รู้หรือท่านรู้ ... ว่าตำนานฮิเดโยชินั้นเริ่มขึ้นในสมัยกรีกโบราณเมื่อ 2000 ปีก่อนครับ ( เรื่องจริง )
34 days ago
ยังจะมากั๊กอะไรอีกนั่น ;w;
34 days ago
สะพรึง!!
34 days ago
ที่พูดมากับภาพ มันเกี่ยวอะไรกันน่ะนั่น -*-
แล้วกั๊กหาบร้ะเมวพอะไรฟร่ะครัฟ
34 days ago
ผมยังไม่ค่อยเข้าใจที่คุณ boarhide กล่าวมาเท่าไหร หรือว่าตรง ๆ คือ ผมคงไม่เข้าใจว่า ตำนานฮิเดโยชิคืออะไร มีเนื้อหาอะไร และไม่แน่ใจว่า ฮิเดโยชิที่คุณกล่าวมาคือ "คิโนชิตะ ฮิเดโยชิ" สาวดุ้นในเรื่อง baka to test to shokanju หรือป่าวน่ะ

หาก "ฮิเดโยชิ" ของคุณคือ "คิโนชิตะ ฮิเดโยชิ" อย่างที่ผมเข้าใจนะครับ ก็คงเกี่ยวกับรูปบ้างตรงที่มีเรื่องที่ผู้ชายในสังคมกรีกจะมองผู้ชายด้วยกันว่า สวยหรือน่ารัก แต่ก็ไม่เหมือน "ฮิเดโยชิ" ซะทีเดียวนะครับ

เราต้องเข้าใจก่อนว่า แม้ชาวกรีกจะให้สิทธิ์หรืออำนาจแก่ผู้หญิงต่ำมาก (ออกจากบ้านยังไม่ได้เลย ไม่ต้องพูดถึงการถือครองทรัพย์สิน) แต่ในเรื่องคุณค่าความงาม ชาวกรีกในคุณค่าความงามของมนุษย์เท่าเทียมกันทั้งสองเพศ ชาวกรีกมองผู้หญิงสวยได้ ก็มองผู้ชายสวยได้ แน่นอนว่า เขาสามารถให้ความรักกับผู้ชายด้วยกันได้ เพราะชาวกรีกไม่ได้มองว่าความรักกับการแต่งงานเป็นเรื่องเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผมไม่ได้ดูอนิเม baka to test to shokanju ผมเลยไม่แน่ใจว่า คนในเรื่องมองฮิเดโยชิอย่างไร

เรื่องราวความรักระหว่างชายด้วยกันของชาวกรีกก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอย่างใดที่มีอยู่ในหมู่นักรบ แม้แต่อเล็กซานเดอร์มหาราชก็มีคู่ขาชื่อ เฮเฟสติออน แต่กลุ่มที่น่าจะเป็นที่รู้จักน้อยกว่าคือ เรื่องนักรบธีบันจากเมืองธีบส์ (Thebes) ซึ่งมีกลุ่มนักรบกลุ่มหนึ่งชื่อ "กลุ่มนักรบศักดิ์สิทธิ์" (Sacred Band of Thebes) จำนวน 300 คน (เหมือนนักรบ 300 ของสปาต้านั่นแหละ) จัดตั้งโดยขุนศึกชาวธีบส์ชื่อ เพโลปิดัส โดยให้เป็นกลุ่มนักรบชาวธีบส์ที่มีคู่รักของตนในกลุ่ม มีวัตถุประสงค์ให้นักรบทั้งสองช่วยเหลือกันต่อสู้กับข้าศึกเพื่อปกป้องคู่รักของตนเอง

ในสมรภูมิลูคตร้า (battle of leuktra) นักรบธีบันกลุ่มนี้ร่วมกับกองทัพเมืองธีบส์กลุ่มอื่น ๆ สามารถเอาชนะกองทัพของสปาต้าที่มีกำลังเหนือกว่าได้ และนักรบศักดิ์สิทธิ์แห่งธีบส์นี้ก็เป็นกลุ่มที่เข้าปะทะกับกองฟาลังซ์ของสปาต้าที่เก่งที่สุดด้วย

รายละเอียดอื่น ๆ หาอ่านได้ในวิกิครับ
-http://en.wikipedia.org/wiki/Sacred_Band_of_Thebes
-http://en.wikipedia.org/wiki/Battle_of_Leuctra
34 days ago
ไม่รู้เหมือนกันว่าภาพนี้จะสื่ออะไร...
แต่วาดสวยดีนะ ขยันเก็บลายละเอียดดี
แต่ตรงรอยจีบกระโปรงดูมั่วๆไปหน่อย
34 days ago
เออ ... ผมคงพูดอะไรดูกว้างๆไปหน่อย ...
เอิม ที่จริงแล้ว ตำนานฮิเดโยชิที่ผมว่านี้หมายถึงตัวละครในเทพนิยายของกรีกที่มีชื่อว่าเฮอร์มาโฟรไดท์ที่เล่ากันว่าสามารถแปลงร่างเป็นเพศ 2 เพศได้ - แต่เท่าที่ฟังดู ผมคิดว่าผมเข้าใจคำว่าฮิเดโยชิผิด ... ผมเองคงต้องกล่าวขอโทษย้อนหลังด้วยครับ
34 days ago
เข้ามาเสพย์สาระ
34 days ago
ไม่เป็นไรหรอกครับ จะได้เข้าใจตรงกัน

จริง ๆ เฮอร์มาโฟรไดท์ไม่ใช่ชื่อของเทพนะครับ เป็นนิยามศัพท์ที่หมายความถึงลักษณะของความสมบูรณ์เพศ (มีสองเพศในสิ่ง ๆ เดียวกัน) เหมือนดอกไม้สมบูรณ์เพศ (มีเกสรตัวผู้และตัวเมียในดอกเดียวกัน)

ชื่อของเทพ คือ เฮอร์มาโฟรดิตอส (Hermaphroditos) เป็นลูกของอโฟรไดต์ (วีนัส) กับเฮอร์เมส (เมอร์คิวรี่) เทพองค์นี้เกี่ยวข้องกับความรักร่วมเพศ (Bisexuality), ความเป็นกระเทย (Effeminacy), และความอุดมสมบูรณ์
คนส่วนมากจะรู้จักอีรอส (Eros) หรือคิวปิดมากกว่าลูกคนอื่น ๆ ของอโฟรไดต์

ตามปกรณัมกรีก-โรมัน เฮอร์มาโฟรดิตอส (ผมขอเรียกว่า เฮอร์เม่ ล่ะกัน) อาจมีกำเนิดที่หลากหลาย อย่างน้อยก็สองตำนาน แม้อาจจะมีการกล่าวถึงเฮอร์เม่มาเป็นเวลานานในช่วงกรีก-โรมันหรือก่อนหน้านั้น แต่ก็ไม่มีหลักฐานใดบันทึกไว้ มีเพียงการกล่าวถึงในหนังสือ the character ของนักปรัชญาชาวกรีก เธโอฟรัสตอส ซึ่งได้กล่าวเชื่อมโยงเฮอร์เม่กับการแต่งงาน ซึ่งเธโอฟรัสตอส มองว่า การแต่งงานเปรียบเสมือมการหลอมรวมหญิงชายเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน และยกย่องให้เฮอร์เม่เป็นเทพพิทักษ์และอวยพรการแต่งงาน

จนกระทั่งช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1 เรื่องราวของเฮอร์เม่จึงเริ่มปรากฏ
1. นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก ดิโอโดรอส ซิลเคลิโอเตส (Diodoros Sikeliotes - ตามภาษากรีก) ได้บันทึกเรื่องราวของเฮอร์เม่ไว้ในตำรา "ห้องสมุดทางประวัติศาสตร์" (Bibliotheca historica) ซึ่งเรื่องราวของเฮอร์เม่ที่เขาบันทึกไว้กล่าวว่า เฮอร์เม่มีสองเพศมาตั้งแต่เกิด ซึ่งเป็นการหลอมรวมเอาความเป็นหญิงของแม่อโฟรไดต์ (ทำให้มีหน้าตาสวยและมีหน้าอกเหมือนผู้หญิง) กับความเป็นชายของพ่อเฮอร์เมสมา (ทำให้มีความแข็งแรงของร่างกายและมีดุ้น) และยังได้กล่าวอีกว่า มีผู้คนบางคนบางกลุ่มมองว่า เทพองค์นี้เป็นสัตว์ประหลาดและอาจจะนำโชคร้ายมาสู่ตน

2. ต่อมาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 3-4 กวีชาวโรมันชื่อ โอวิดิอุส หรือโอวิด (ovid) ได้สร้างสรรค์แต่งเติมเรื่องราวของเฮอร์เม่ในบทกวี "Metamorphoses" ว่า เฮอร์เม่เดิมเกิดมาเป็นชายแท้ 100% แต่ต่อมา ระหว่างที่เดินทางในป่าคาเรีย ได้พบกับพรายชื่อ ซัลมาซิส ในสระน้ำแห่งหนึ่ง เธอถูกใจความหล่อและความเป็นหนุ่มน้อยของเฮอร์เม่ เลยพยายามหว่านเสน่ห์ล่อลวง แต่เฮอร์เม่ปฏิเสธซัลมาซิส เธอจึงจากไป แต่เมื่อเฮอร์เม่จะลงอาบน้ำในสระ ซัลมาซิสก็ปรากฏตัวออกมากอดรัดและขืนใจเฮอร์เม่
และเมื่อเฮอร์เม่พยายามต่อสู้ขัดขืน ซัลมาซิสก็ประกาศต่อเทพเจ้าต่าง ๆ ขอให้เธอกับเฮอร์เม่ไม่มีวันแยกจากกัน เธอจึงได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเฮอร์เม่ กลายเป็นเทพสองเพศที่มีหน้าอกแบบผู้หญิงแต่มีดุ้นแบบผู้ชาย (ในลักษณะเช่นนี้ ผมว่าน่าจะเรียกว่า "กลายร่าง" จะเหมาะกว่า เพราะเขาแปลงแล้วแปรงกลับไม่ได้ และการเปลี่ยนแปลงร่างกายไม่ได้เกิดขึ้นจากเจตจำนงของตัวเฮอร์เม่เอง)
34 days ago
รายละเอียดหาอ่านได้จากวิกิเช่นเดียวกัน
-http://en.wikipedia.org/wiki/Hermaphroditus
34 days ago
สัมผัสได้ถึงคอสโม่ของวิกิ
จะร่ายนํ้าท่วมทุ่งมาทำไมแปะ link มาเลยสิ
คนอยากรู้ก็ตามไปอ่านเอง เสียเวลาเลื่อนเมาท์ลง หงุดหงิด
34 days ago
เกาะเรือไม้แถว ๆ นี้ ลอยไป ... (っ´; ω;`)っ
Karabako. © 2014